วันศุกร์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

เชียงคาน

เชียงคาน เมืองคนงาม ข้าวหลามยาว มะพร้าวแก้ว เพริศแพร้วเกาะแกง แหล่งวัฒนธรรม




"เชียงคาน เมืองโบราณ ที่ไม่ล้าสมัย"

เมืองเชียงคาน ในปัจจุบันเป็นเมืองโบราณเก่าแก่ในสายตาของนักท่องเที่ยว เป็นชุมชนที่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวมาได้ยาวนานกว่า 100 ปี ซึ่งเพิ่งจะมีการจัดงานฉลอง "100 ปี เชียงคาน เมืองโบราณ ริมฝั่งโขง" ไปเมื่อวันที่ 4-6 ธันวาคม 2552 ที่ผ่านมานี้เอง เพื่อเป็นการอนุรักษ์ความเป็นเอกลักษณ์ให้คงอยู่สืบไป
เมืองเชียงคาน เมืองโบราณ.. บ้านไม้เก่าๆ ร้านกาแฟ มุมหนังสือเล็กๆ เท่านั้น แต่กลับมีนักท่องเที่ยวที่ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นหนุ่มสาว เดินเที่ยวกันให้เต็มไปหมด อาจจะด้วยเพราะเมืองเชียงคานนี้เงียบสงบ บรรยากาศดี ด้วยการที่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์แต่ผสมผสานกับความเป็นสมัยใหม่ที่ไม่มากจนเกินไปได้อย่างลงตัวในแบบฉบับของเชียงคาน ผู้คนที่เชียงคานก็เป็นมิตร อัธยาศัยดี และการไปเที่ยวที่เชียงคานก็ไม่แพงจนเกินกำลัง ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าเชียงคานแห่งนี้ ก็จะเป็นที่รู้จักกันมากขึ้น หลายๆ สิ่งที่เชียงคานอาจเปลี่ยนแปลงไป อย่างไรก็ตาม เชียงคานจะไม่เปลี่ยนแปลงไป ถ้าเราทุกคนยังคงช่วยกันรักษาความเป็นเอกลักษณ์ ดำรงวิถีชีวิตในแบบของเชียงคานสืบไป ความเป็นเชียงคานที่คงความเป็นเอกลักษณ์ได้ยาวนานกว่าร้อยปี ก็จะเป็นเช่นเดิมตลอดไป.
เชียงคาน อำเภอเล็ก อารยธรรมแห่งลุ่มน้ำโขง จากอาณาจักรล้านช้างในอดีต จากภูมิประเทศที่ติดชายแดนลาว ผู้คนที่นี่ทำการค้าขายกับคนลาวฝั่งตรงข้ามอยู่สม่ำเสมอตั้งแต่อดีตกาล
ครั้นประเทศลาวตกเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศส ศิลปวัฒนธรรมการก่อสร้างบ้านเรือน อาหารการกิน คนที่นี่พลอยได้รับอารยธรรมฝรั่งเศสไปด้วย
การคมนาคมนอกจากเรือ แล้ว จักรยานเห็นจะเป็นยานพาหนะยอดฮิตของผู้คนที่นี่ เราสามารถเห็นจักรยานรุ่นเก่าจอดเรียงอยู่หน้าบ้าน แถวเชียงคานอยู่ทั่วไป
บ้านเรือทรงไทยโบราณเกือบร้อยปี หากใครมีฐานะหน่อยก็จะมีระเบียงหน้าบ้าน จนหน่อยก็มีแค่หน้าต่าง
วัฒนธรรมการใส่บาตรข้าวเหนียวยามเช้า ยังคงมีให้เห็นอยู่ พระที่นี่เดินบิณฑบาตกันแต่เช้ามืด ประมาณ 6.00 น.ช่วงหน้าหนาวสว่างช้าหน่อยก็เดินกันตั้งแต่ 6.30 นาที
ทางหอการค้าท่องเที่ยว จ.เลย มีแผนการหลายอย่างที่จะอนุรักษ์ วัฒนธรรมความเป็นอยู่ สิ่งก่อสร้าง ภาษาท้องถิ่น ของผู้คนที่นี่
ปัจจุบันทางการกำลังทำถนนจาก อ.ท่าลี่ สู่ หลวงพระบาง ประเทศลาว ประมาณ 320 กม. ถือว่าสั้นและสะดวกที่สุดในการเดินทางโดยรถยนต์ โครงการนี้จะแล้วเสร็จ ประมาณปี 2556
ลัดเลาะสองฝั่งโขง แถวเชียงคานนี่เอง เป็นจุดเริ่มลำน้ำโขงที่มาบรรจบกับลำน้ำเหือง ไหลผ่านอีกหลาย อำเภอ ของอีกหลายจังหวัดของประเทศไทย ทิวทัศน์แปลกตา มีเกาะแก่งน้อยใหญ่ให้ดูชมตลาดเส้นทางที่คู่ขนานกับลำน้ำสายนี้อาหารการกิน ส่วนใหญ่เป็นจำพวกปลาต่างๆ จากแหล่งน้ำโขงนี่เอง
เชียงคาน จะเข้าหน้าหนาวแล้ววว คิดถึงเมืองเล็กๆ เมืองนี้จัง
สองปีที่แล้ว ได้ไปเดินเตร็ดเตร่ริมน้ำโขงแบบเปลี่ยวปล่าวกันสองคน ปีนี้ต่างคนต่างก็มีภารกิจ ได้แต่มานั่งดูรูปพร้อมกลับซึมซับความสุขในวันนั้น  เฮ้อออ เห็นแล้วอยากกลับไปที่นี่อีกจังเลยยย
อ.เชียงคาน อำเภอเล็กๆริมแม่น้ำโขง บรรยากาศคล้ายๆ ปายในอดีต เชียงคานในวันนั้นยังสงบ  เงียบเหงา เหมาะแก่การไปพักผ่อนเพื่อหลีกหนีความวุ่นวายจากเมืองหลวง ราคาโรงแรมในเชียงคานและค่าครองชีพก็ไม่สูงมากนัก
อำเภอเล็กๆนี้อยู่ในจังหวัดเลย ที่คนส่วนมากจะรู้จักกันแต่ภูกระดึงและผีตาโขนนน ตามมาดูกันว่าทริปนี้น่าสนใจขนาดไหนคะ
ตื่นเช้ามาดูคนเฒ่าคนแก่ตักบาตรข้าวเหนียว ใส่แต่ข้าวเหนียว ส่วนกับข้าว ชาวบ้านจะตามไปถวายที่วัด ชาวบ้านที่อยู่ที่นี่ ส่วนใหญ่จะมีแต่ผู้เฒ่าผู้แก่ค่ะ ลูกหลาน หรือคนวัยหนุ่มสาว ต่างเข้าไปหางานทำ หรือไม่ก็ไปเรียนหนังสือในกรุงกันหมด ช่วงเทศกาลหรือวันหยุด ถึงกลับมาเยี่ยมบ้านกัน

บ้านไม้อายุนับร้อยปี เก่าแก่ที่สุดในเชียงคาน

บ้านไม้เชียงคาน
กลางวัน เดินเที่ยวในเมืองเล็กๆ อันเงียบสงบ ดูบ้านไม้เก่าอายุหลายสิบปีที่ยังคงได้รับการรักษาไว้ แวะไปกินกาแฟ จิบน้ำชาที่ร้านเก๋ๆ แต่งร้านแบบโบราณในหลายๆร้าน เดินเที่ยวหาของกินท้องถิ่นแสนอร่อย
ตกเย็นเดินเที่ยวลัดเลาะ ชมพระอาทิตย์ตกริมโขง น้ำโขงสีแดง ดูวิถีชีวิตริมน้ำและบรรยากาศยามเย็น
แม่น้ำโขงตอนเย็น
ที่เที่ยวในเมือง



  1. ร้านบ้านดอกฝ้าย ร้านไอเดีย ดี ดี ร้านแนวๆเก๋, ร้านนิยมไทย ที่ทำผ้าห่มฝ้ายแบบดั้งเดิม
  2. เที่ยววัดมหาธาตุ พระเจดีย์สีขาวสะอาดและมีภาพเขียนสีที่หน้าบันมีเรือยาวด้วยค่ะ อยู่ในโรงเก็บหน้าวัดศรีคุนเมือง
  3. เที่ยววัดท่าคก และ วัดศรีคุณเมือง 2 วัดนี้อยู่ในเส้นถนนคนเดิน เป็นวัดเก่าแก่
  4. เดินเที่ยวเลียบลำโขง ดูบ้านไม้เก่าตามถนนชายโขง
  5. นั่งเรือเลาะริมฝั่งโขง ล่องเรือข้ามไปฝั่งลาว ซึ่งเป็นแขวงเวียงจันทร์ อยู่ห่างจากตัวนครเวียงจันทร์พอสมควร


แก่งคุดคู้
สามารถเดินหาร
ถสกายแล็ปพาไปเที่ยวได้จากแถวตลาดไปแก่งคุดคู้ ราคา 100 บาท หรือจะหาเช่าขี่มอไซด์เที่ยวลัดเลาะจากเชียงคานมาตามถนนชายโขงสัก 4.5กม. ก็ถึงแยกไปแก่งคุดคู้ ที่นี่ในหน้าแล้งน้ำในแม่โขงลดระดับลงมาก แก่งคุดคู้ก็จะโผล่ขึ้นมาขวางกลางน้ำทำให้ เรือต้องวิ่งอ้อมคุดคู้เกิดเป็นเกาะแก่งสวยงาม สามารถนั่งเรือไปชมกลางน้ำได้ค่าเรือนำเที่ยวราคาประมาณ  700 บาท/ลำ



การเดินทางในเชียงคาน




เชียงคานเป็นเมืองเล็กๆ ใช้เวลา 1 วันก็สามารถเที่ยวได้รอบเมืองแล้ว
- เช่าจักรยาน ค่อนข้างสะดวกที่สุด ถ้าแรงดีสามารถปั่นไปได้ถึงแก่งคุดคู้ ราคาเช่าคันละ 50 บาท/คัน/วัน
- เดินเท้า เวลาที่เหมาะสมจะเป็นช่วงบ่ายๆ เย็นๆ ร้านค้าจะทยอยเปิด ก่อนพระอาทิตย์ตกดิน แนะนำให้เดินเลียบแม่น้ำโขง บรรยากาศดีมาก ช่วงหัวค่ำจะเป็นช่วงที่ถนนคนเดินคึกคักที่สุด
- นั่งสกายแลป รถสกายแลปเป็นรถรับจ้างประจำถิ่น เป็นรถสามล้อเครื่อง

ที่พักแนะนำ
  • สุเนต์ตา โฮสเทล [เช็คราคา/จองที่พัก] ตกแต่งสวย บรรยากาศดี ติดแม่น้ำโขง มี wifi ให้ใช้ฟรี
  • ดิโอลเชียงคาน บูติคโฮเต็ล [เช็คราคา/จองที่พัก] อยู่ติดแม่น้ำโขงและถนนคนเดิน
  • มาเลยเด้ เกสเฮ้าส์ [เช็คราคา/จองที่พัก] บ้านไม้ บรรยากาศแบบโฮมสเตย์แท้ๆ
  • โรงแรมบ้านเฮา [เช็คราคา/จองที่พัก] เป็นกันเอง สะดวกสบายเหมือนอยู่บ้านญาติ มีจักรยานให้ใช้ฟรี
  • สองผัวเมีย เกสเฮ้าส์ [เช็คราคา/จองที่พัก] เกสเฮ้าท์เล็กๆ ที่น่ารัก เจ้าของอัธยาศัยดี เป็นกันเอง ห้องนอนสะอาด หลังบ้านมีสวนเล็กๆ บรรยากาศดี หน้าร้านขายของที่ระลึกด้วย
  • เถ้าแก่ลาว [เช็คราคา/จองที่พัก] ห้องสะอาด บริการดี มีของเก่าให้ชม
  • โรงแรมสุขสมบูรณ์ [เช็คราคา/จองที่พัก] กว้างขวางสะอาดสะอ้านมีสองฝั่ง ฝั่งริมถนนเป็นของเก่า อารมณ์ประมาณบ้านใหม่ในละคร คืนละ 400บาท ใช้ห้องน้ำรวมมีสุขา 2 ห้อง และห้องอาบน้ำมีน้ำอุ่นด้วย 2 ห้อง เป็นโรงแรมเดียวที่มีที่จอดรถ ส่วนฟากริมแม่น้ำเป็นห้องใหม่ที่มีห้องน้ำในตัว
  • เรือนแรมลูกไม้เกสท์เฮ้าส์ ที่นี่เคยเป็นบ้านเจ้าสัวเก่าของเมืองเชียงคาน ค่อนข้างใหญ่โตและโอ๋อ่ามากสำหรับสมัยก่อน ปัจจุบัน ทำเป็นเกสท์เฮ้าส์ พร้อมกับเป็นแกลลอรี่ ห้องพักมีทั้งหมด 5 ห้อง ราคาประมาณ 300-400 บาท
  • เชียงคานเกสท์เฮ้าส์ ที่ พักราคาค่อนข้างถูกมากแถมเจ้าของก็ใจดี อารมณ์บ้านไม้สองชั้นห้องน้ำแยก เตียงไม้มีมุ้ง แต่ก็สะอาดดีนะคะ คืนละไม่เกิน200 บาท ต่อคน ที่นี่มีระเบียงริมโขงให้นั่งพักผ่อนอ่านหนังสือ หรือจะจิบกาแฟแกล้มวิวน้ำโขงสีโอวัลติน ก็มีความสุขดีคะ
ที่กิน
  • ร้านลุกโภชนา ซ.9 แวะกินต้มเลือดหมู, อาหารตามสั่ง
  • ร้านซาลาเปาปุยฝ้าย ซาลาเปาสูตรโบราณที่ทำขายมายาวนาน
  • ร้านเหลียวแล ผัดไทอร่อยมากจน ไม่ต้องปรุงอะไรเลย
  • ร้านนาทีทอง การแต่งร้านแบบโบราณ มีกาแฟรสชาติเข้มข้นแท้แต่ดั้งเดิม, และน้ำชามะลิหอมอร่อย ไว้ต้อนรับ
เล่าเรื่อง…meaws

บรรยากาศยามเย็นที่เชียงคาน


การเดินทาง
นั่งรถทัวร์จากกรุงเทพฯ สถานีขนส่งหมอชิต ใช้เวลาประมาณ 10 ชั่วโมง นอนไปเรื่อยๆ เดี๋ยวเดียวก็ถึง ไปทางเดียวกับที่สุดฮิตภูกระดึงนั่นแหละคะ รถออกสี่ทุ่ม ก็จะถึงเลยประมาณ 6 โมงเช้า ถึงเชียงคานประมาณ 7 โมง

รถทัวร์ที่แนะนำก็มี
  1. แอร์เมืองเลย มีทั้งป.1 38 ที่นั่ง / 32ที่นั่ง / 24ที่นั่ง
  2. ชุมแพทัวร์ (ผ่านผานกเค้าวันละเที่ยว) รอบ 3 ทุ่ม ป.1


ที่มา http://www09.com/
http://www/chiangkhan/
http://www.folktravel.com/

เทศกาล งานประเพณี


 



                                   รถแห่ขบวนผีขนน้ำ บ.นาซ่าว อ.เชียงคาน


                              ป้ายผ้าผะเวส ยาวหลายเมตร จากผาขาว

จัดขึ้น ณ บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดเลย ช่วงเทศกาลตรุษจีน ประมาณวันที่ 1-7 กุมภาพันธ์ ของทุกปี วันแรกของงานจะมีขบวนแห่จากอำเภอต่างๆ ที่ประดับตกแต่งรถด้วยผลิตภัณฑ์จากฝ้าย ซึ่งรถแต่ละคันจะมีเทพีนั่งประดับมาด้วย ส่วนบริเวณจัดงานจะมีการออกร้านของหน่วยงานราชการต่าง ๆ การประกวดนางสาวไทเลยและมหรสพอื่นๆ อีกมากมาย

งานประเพณีการละเล่นผีตาโขน





จัดขึ้นที่อำเภอด่านซ้าย ในวันเสาร์-อาทิตย์ หลังวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ของทุกปี หลังจากงานนมัสการพระธาตุศรีสองรักแล้ว งานประเพณีการละเล่นผีตาโขนเป็นการละเล่นพื้นบ้านที่มีขึ้นในอำเภอด่านซ้าย และอำเภอนาแห้วเท่านั้น โดยมีการแห่ผีตาโขนในงานบุญหลวง ซึ่งเป็นงานบุญใหญ่ประจำปีของท้องถิ่น การละเล่นผีตาโขนส่วนมากจะเล่นกันเฉพาะผู้ชาย ตั้งแต่เด็กรุ่นๆ ถึงผู้ใหญ่ โดยแบ่งการจัดงานเป็นสองวัน ในวันแรกจะมีพิธีแห่พระอุปคุตจากลำน้ำหมันมาที่วัดโพนชัย วันที่สองมีการแห่เข้าเมือง และผู้เล่นจะนำเครื่องผีตาโขนไปโยนทิ้งแม่น้ำหมัน จากนั้นเวลาค่ำจะมีการเทศก์มหาชาติถึง 13 กัณฑ์




งานแสดงไม้ดอกเมืองหนาว อำเภอภูเรือ





จัดขึ้นที่บริเวณสนามหน้าที่ว่าการอำเภอภูเรือ ในช่วงวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ประมาณวันที่ 31 ธันวาคม-3 มกราคม ของทุกปี ภายในงานจะจัดให้มีการออกร้านแสดงไม้เมืองหนาว การประกวดไม้ดอกไม้ประดับเมืองหนาว งานราตรีแม่คะนิ้ง ลีลาศโต้ลมหนาว และการจำหน่ายพืชผลทางการเกษตรของชาวอำเภอภูเรือ

ที่มา   http://www.relaxzy.com/
          http://www.oknation.net/
          http://loei.mots.go.th/
          http://www.edtguide.com/

อุทยานแห่งชาติภูเรือ

อุทยานแห่งชาติภูเรือ



     

อุทยาน แห่งชาติภูเรือ มีพื้นที่ครอบคลุมท้องที่อำเภอภูเรือและอำเภอท่าลี่ จังหวัดเลย อาณาเขตด้านทิศเหนืออยู่ติดกับประเทศลาว รูปพรรณสันฐานของภูเรือมีรูปร่างลักษณะเหมือนเรือใหญ่บนยอดดอยสูงเป็นภูผา สีสันสะดุดตาหินบางก้อนมีลักษณะเหมือนถูกปั้นแต่งไว้ ชาวบ้านเรียกว่ากว้านสมอโดยรอบๆ จะเห็นยอดดอยเป็นขุนเขาน้อยใหญ่ใกล้เคียงเป็นฝ้าขาวด้วยละอองน้ำ หมอก ปกคลุมไว้ท่ามกลางป่าอันอุดมสมบูรณ์ มีเนื้อที่ประมาณ 120.84 ตารางกิโลเมตร ในปี พ.ศ. 2519 อธิบดีกรมป่าไม้ เดินทางมาราชการที่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง นายสุจินต์ เพชรดี ปลัดจังหวัดเลย ได้ให้ความเห็นว่า ควรส่งเสริมป่าภูเรือให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัด จากนั้นจังหวัดเลยจึงให้ทางอำเภอภูเรือสำรวจพื้นที่ป่าภูเรือ ซึ่งอำเภอภูเรือได้รายงานถึงจังหวัดเลยว่า พื้นที่ป่าภูเรือมีทรัพยากรธรรมชาติที่สวยงามสำคัญหลายแห่ง เช่น ป่าไม้ น้ำตก ทิวทัศน์ เหมาะที่จะจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติได้ กองอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ไปทำการสำรวจหาข้อมูลเบื้องต้นของป่าภูเรือ ท้องที่อำเภอภูเรือและอำเภอท่าลี่ จังหวัดเลย ปรากฏว่า ป่าแห่งนี้อยู่ในเขตป่าหมายเลข 23 ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2506 ให้รักษาไว้ให้เป็นป่าถาวรของชาติ
พื้นที่ป่าภูเรือประกอบด้วยทิวเขาสูง สลับซับซ้อนเรียงรายเป็นรูปต่างๆ น่าพิศวงสลับกับที่ราบเป็นบางส่วน สาเหตุที่ขนานนามว่า ภูเรือเพราะมีภูเขาลูกหนึ่งมีชะโงกผายื่นออกมาดูคล้ายสำเภาใหญ่ และที่ราบบนยอดเขามีลักษณะคล้ายท้องเรือตลอดจนมีธรรมชาติและทิวทัศน์ที่สวย งาม เหมาะสมที่จะจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ
กองอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ ได้นำเสนอคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ ซึ่งมีมติในการประชุมเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2521 เห็นชอบให้กำหนดพื้นที่ป่าดังกล่าวเป็นอุทยานแห่งชาติ โดยได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าภูเรือ ในท้องที่ตำบลอาชี ตำบลท่าลี่ อำเภอท่าลี่ และตำบลลาดค่าง ตำบลหนองบัว ตำบลร่องจิก อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ ซึ่งประกาศไว้ในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 96 ตอนที่ 124 ลงวันที่ 26 กรกฎาคม 2522 นับเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 16 ของประเทศ




ลักษณะภูมิประเทศ
อุทยานแห่งชาติภูเรือ มีลักษณะภูมิประเทศเป็นทิวเขาสูงสลับซับซ้อนประกอบด้วย เขาหินทรายเป็นส่วนใหญ่ นอกจากนั้นเป็นหินแกรนิตสลับกันไป ลักษณะเช่นนี้จึงทำให้มีที่ราบสูงสลับกับ ยอดเขาสูงทั่วไป มียอดเขาสูงที่สุดคือ ยอดภูเรือ มีความสูงถึง 1,365 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ยังมียอดเขาที่สำคัญ คือ ยอดเขาภูสัน มีความสูง 1,035 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง และยอดภูกุ มีความสูง 1,000 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ลักษณะเช่นนี้เองจึงเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารที่สำคัญก่อให้เกิดลำธารหลายสาย เช่น ห้วยน้ำด่าน ห้วยบง ห้วยเกียงนา ห้วยทรายขาว ห้วยติ้ว และห้วยไผ่ ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของน้ำตกห้วยไผ่ที่สวยงามแห่งหนึ่ง
ลักษณะภูมิอากาศ
ด้วยอุทยานแห่งชาติภูเรืออยู่ที่จังหวัดเลย ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีอากาศหนาวเย็นที่สุดของประเทศไทย และอยู่บนยอดเขาสูง จึงทำให้มีอากาศเย็นตลอดปี โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวจะหนาวเย็นมาก จนกระทั่งน้ำค้างบนยอดหญ้าจะแข็งตัวกลายเป็นเกล็ดน้ำแข็ง ซึ่งมีภาษาพื้นเมืองเรียกว่า แม่คะนิ้งผู้ที่จะไปพักผ่อนควรเตรียมตัวให้พร้อมที่จะผจญกับความหนาวเย็น
พืชพรรณและสัตว์ป่า
ภูเรือ มีสภาพป่าหลายชนิดปะปนกันอย่างสวยงาม ทั้งป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรัง ป่าดงดิบ ป่าสนเขา โดยเฉพาะยอดภูเรือ ประกอบด้วยป่าสนเขา สลับกับสวนหินธรรมชาติแซมด้วยพุ่มไม้เตี้ย สลับด้วยทุ่งหญ้าเป็นระยะ ไม้พื้นล่างที่พบโดยทั่วไป ได้แก่ กุหลาบป่า มอส เฟิน และกล้วยไม้ที่สวยงาม เช่น ม้าวิ่ง สามปอย ไอยเรศ เอื้องคำ เอื้องผึ้ง เอื้องเงิน ซึ่งขึ้นตามต้นไม้และโขดหิน กล้วยไม้เหล่านี้จะออกดอกบานสะพรั่งให้ชมสลับกันไปตลอดทั้งปี
นอกจากนี้ ป่าภูเรือยังมีสัตว์ป่าที่ชุกชุมพอสมควร ที่พบบ่อย เช่น หมี เก้ง กวางป่า หมูป่า หมาไน ลิง พญากระรอกดำ ไก่ฟ้าพญาลอ ไก่ป่า และชุกชุมไปด้วยกระต่ายป่า เต่าเดือย เต่าปูลูและนกชนิดต่างๆ ที่สวยงามอีกมากมาย โดยเฉพาะในฤดูหนาวจะอพยพมาจากประเทศจีนเป็นจำนวนมาก

 

ผาโหล่นน้อย
เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงาม สามารถมองเห็นภูหลวง ภูผาสาด ภูครั่งและทะเลภูเขา อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ประมาณ 3 กิโลเมตร
กิจกรรม: ชมทิวทัศน์

 
ผาซำทองหรือผากุหลาบขาว
เป็นหน้าผาสูงชันและเป็นแหล่งน้ำซับ ประกอบกับมีไลเคนที่มีสีเหลืองคล้ายสีทอง ซึ่งเรียกว่า ผาซำทองเป็นจุดชมทิวทัศน์อีกจุดหนึ่ง อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติตามเส้นทางที่จะไปผาโหล่นน้อยประมาณ 2.5 กิโลเมตร

น้ำตกห้วยไผ่
เป็นน้ำตกสูงชัน สูงประมาณ 30 เมตร สายน้ำพุ่งแรงใสสะอาด อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นแหล่งน้ำที่สำคัญในการใช้ทำน้ำประปาในอำเภอภูเรือ

ยอดภูเรือ
เป็นจุดที่สูงที่สุดในเขตอุทยานแห่งชาติ อยู่สูงประมาณ 1,365 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง เป็นหน้าผาสูงชัน พื้นที่โดยรอบปกคลุมด้วยป่าสนเขา ทั้งสนสองใบและสนสามใบ สลับกับลานหินธรรมชาติ ต้องเดินขึ้นเขาจากผาโหล่นน้อยมาประมาณ 700 เมตร จากจุดนี้สามารถมองเห็นทัศนียภาพที่สวยงามได้รอบด้านกระทั่งเห็นแม่น้ำเหือง และแม่น้ำโขง ซึ่งกั้นพรมแดนไทย ลาว บนยอดเรือยังเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปนาวาบรรพต ซึ่งชาวภูเรืออัญเชิญมาจากอยุธยาด้วย จากยอดภูเรือมีเส้นทางเดินป่าผ่านบริเวณที่มีดอกไม้เล็กๆ เช่น กระดุมเงิน ดาวเรืองภู เปราะภู ซึ่งออกดอกสวยงามในช่วงหน้าหนาว ที่ป่าสนบริเวณ ทุ่งกวางตาย มีดอกกระเจียวบานในช่วงต้นฤดูฝนราวเดือนพฤษภาคม นอกจากนั้นยังมี ลานหินพานขันหมาก เป็นลานหินแตกเป็นรอยตื้นๆ ที่จะพบดอกไม้ที่ชอบขึ้นตามลานหิน เช่น เอื้องม้าวิ่ง อยู่ทั่วไป เส้นทางเดินป่าจะวกกลับไปลานกางเต็นท์ในบริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติ

สวนหินพาลี
เป็นลานหินกว้างใหญ่ เต็มไปด้วยก้อนหินรูปทรงแปลกตาตั้งอยู่เรียงราย บางก้อนคล้ายเสาหินสูง บางก้อนคล้ายดอกเห็ด สวนหินพาลีอยู่ใกล้บริเวณลานกางเต็นท์
กิจกรรม :เที่ยวถ้ำ/ธรณีวิทยา

ถ้ำไทร
อยู่ห่างจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวที่ 2 (ภูสน) ประมาณ 500 เมตร ทางด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ ถ้ำไทรเป็นถ้ำหินทราย ปากทางเข้าถ้ำจะแคบมากต้องลงในทางดิ่งประมาณ 30 เมตร เมื่อถึงที่ราบภายในถ้ำจะเป็นห้องโถงขนาดใหญ่ กว้างประมาณ 30 เมตร ยาวประมาณ 150 เมตร ภายในถ้ำประกอบด้วยหินทรายเป็นแผ่นๆ ซึ่งจะอยู่ตามเพดานถ้ำ ส่วนพื้นล่างจะเป็นลักษณะเม็ดทรายที่ไหลมากับน้ำ และในบริเวณปลายสุดของถ้ำจะมีสายธารน้ำไหลตลอดเวลา บางช่วงจะมีลักษณะเป็นน้ำตกที่เกิดภายในถ้ำ และเมื่อสายน้ำกระทบแสงไฟจะเกิดเป็นประกายที่สวยงาม ภายในถ้ำจะมีค้างคาวอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ
อุทยานแห่งชาติยังมีจุดเด่นที่สวยงามอีกหลายแห่ง เช่น ลาดหินแตก หินค้างหม้อ หินวัวนอน หินพระศิวะ สวนหินเต่า ศาลารับเสด็จ ลาดเหมือนแอ ลานสาวเอ้ ทุ่งหินเหล็กไฟ น้ำตกแก่งสุข และสระสวรรค์ ตามตำนานรักภูทุ่ง (ภูเรือ) และภูครั่ง เป็นต้น







สถานที่ติดต่อ
อุทยานแห่งชาติภูเรือ ต.หนองบัว อ. ภูเรือ จ. เลย 42160
โทรศัพท์ 0 4288 1716, 0 4288 4144
การเดินทาง รถยนต์
จังหวัดเลยอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 558 กิโลเมตร จากจังหวัดเลยเดินทางไปโดยทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 203 ระยะทางประมาณ 48 กิโลเมตร ถึงตัวอำเภอภูเรือ จากนั้นเดินทางต่อไปอีก 4 กิโลเมตร ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติ
ที่พักแรม/บ้านพัก
อุทยานแห่งชาติได้จัดเตรียมบ้านพักไว้ให้บริการในบริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติ จำนวน 7 หลัง
สถานที่กางเต็นท์/เต็นท์
อุทยาน แห่งชาติได้จัดเตรียมเต็นท์และสถานที่กางเต็นท์ ไว้ให้บริการ การสำรองที่พักเต็นท์สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดและสำรองที่พักเต็นท์ได้ กับอุทยานแห่งชาติโดยตรง สำหรับอัตราค่าบริการอยู่ระหว่าง 250-800 บาท ขึ้นอยู่กับชนิด ขนาดของเต็นท์ และอุปกรณ์ประกอบอื่นๆ
กรณีที่นำเต็นท์ไปกางเอง ต้องเสียค่าบริการสถานที่ 30 บาท/คน/คืน หากไม่มีเครื่องนอนสามารถใช้บริการเครื่องนอนและอุปกรณ์สนามของอุทยานแห่ง ชาติ โดยมีอัตราค่าบริการ ดังนี้
1) ชุดเครื่องนอน ประกอบด้วย หมอน ถุงนอน ที่รองนอน และชุดสนาม ราคา 150 บาท/ชุด/คืน
2) ชุดเครื่องนอน ประกอบด้วย หมอนใหญ่ ที่นอน ผ่าห่ม และชุดสนาม ราคา 200 บาท/ชุด/คืน