วัดเนรมิตวิปัสสนา
อยู่ห่างอำเภอด่านซ้าย ๑ กิโลเมตร เป็นวัดที่มีพระอุโบสถทำจากศิลาแลงที่สวยงาม ที่สุดภายในพระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐานของ พระพุทธราชชินราชจำลอง และมีภาพจิตรกรรมฝาผนังฝีมือช่างเขียน ชาวด่านซ้าย วัดนี้สร้างด้วยทุนทรัพย์มหาศาล ซึ่งก่อสร้างได้เพราะบุญบารมีของ พระครูภาวนาวิสุทธิญาน (หลวงพ่อมหาพัน) ที่มรณภาพไปแล้ว เป็นสถานที่ที่ใครเดินทางมาถึงด่านซ้าย ไม่ลืมแวะไปนมัสการและเที่ยวชม
ตั้งอยู่สูงเด่นอยู่เนินเขา ห่างจากพระธาตุศรีสองรักษ์เพียงเล็กน้อย พระอุโบสถ และเจดีย์ภายในวัดก่อสร้างด้วยศิลาแลงทั้งหลัง ที่เกิดจากจินตนาการสร้างสรรค์ ออกแบบโดยพระและเณร ภายในพระอุโบสถตกแต่งไว้ตามแบบศิลปะ ส่วนกลาง มีพระพุทธชินราช จำลองเป็นพระประธานและมีหุ่นขี้ผึ้งของหลวงพ่อมหาพันธ์ สีลวิสุทโธ ซึ่งเป็นผู้ริเริ่ม และได้มรณภาพแล้ว ประดิษฐานอยู่และมีภาพจิตกรรมที่สวยงาม ประดับอยู่โดยรอบพระอุโบสถ นอกจากนี้บริเวณพื้นที่โดยรอบมีการจัดแต่งสวนต้นไม้ที่ร่มรื่นสวยงาม และมีต้นไม้ที่ สำคัญทางพุทธศาสนา คือ " ต้นสาละ" เป็นต้นไม้ที่พระพุทธเจ้าทรงประสูติ
สิ่งที่น่าสนใจในวัดเนรมิตวิปัสสนา
1.อุโบสถวัดเนรมิตวิปัสสนา
ทำด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก ประกอบด้วยคานคอดิน อุโบสถเป็นลักษณะแบบทรงไทย ก่ออิฐถือปูน หลังคามุงด้วย กระเบื้องเซรามิก ฝาผนังเป็นศิลาแลงที่นำมาจากจังหวัดลำพูนและจังหวัดปราจีนบุรี พื้นของอุโบสถปู ด้วยหิน แกรนิตสีชมพูจากแหล่งหินแกรนิตในจังหวัดเลย ประตูหน้าต่างเป็นไม้มะค่าแผ่นเดียวเมื่อเข้ามาในโบสถ์จะพบ กับความงดงามของพระประธานปางมารวิชัยซึ่งมีพุทธลักษณะคล้ายกับพระพุทธชินราช โอสถ จำลองแบบมาจาก วัดมหาธาตุ จังหวัดพิษณุโลกทั้งยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนังลวดลายอ่อนช้อยด้วยศิลปะ ของช่างเขียนชาว ด่านซ้าย ซึ่งใช้เวลาวาดนานถึง 8 ปี เป็นภาพเกี่ยวกับพุทธประวัติ ภาพพระเวสสันดรชาดก และภาพทศชาติ รวมทั้งมี พระพุทธรูปปางนาคปรก พระแก้วมรกต รูปเหมือนหลวงพ่อโต
ทำด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก ประกอบด้วยคานคอดิน อุโบสถเป็นลักษณะแบบทรงไทย ก่ออิฐถือปูน หลังคามุงด้วย กระเบื้องเซรามิก ฝาผนังเป็นศิลาแลงที่นำมาจากจังหวัดลำพูนและจังหวัดปราจีนบุรี พื้นของอุโบสถปู ด้วยหิน แกรนิตสีชมพูจากแหล่งหินแกรนิตในจังหวัดเลย ประตูหน้าต่างเป็นไม้มะค่าแผ่นเดียวเมื่อเข้ามาในโบสถ์จะพบ กับความงดงามของพระประธานปางมารวิชัยซึ่งมีพุทธลักษณะคล้ายกับพระพุทธชินราช โอสถ จำลองแบบมาจาก วัดมหาธาตุ จังหวัดพิษณุโลกทั้งยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนังลวดลายอ่อนช้อยด้วยศิลปะ ของช่างเขียนชาว ด่านซ้าย ซึ่งใช้เวลาวาดนานถึง 8 ปี เป็นภาพเกี่ยวกับพุทธประวัติ ภาพพระเวสสันดรชาดก และภาพทศชาติ รวมทั้งมี พระพุทธรูปปางนาคปรก พระแก้วมรกต รูปเหมือนหลวงพ่อโต
อุโบสถซึ่งสร้างด้วยศิลาแลงทั้งหลัง
พระพุทธชินราชจำลอง
ปฎิมากรรมฝาผนัง
ทำบุญปิดทองลูกนิมิตร่วมสร้างโบสถ์
ไม่มีเซียมซีมีแต่คำสอนหล่วงพ่อที่ให้เสี่ยงทาย
2.มณฑปพระครูภาวนาวิสุทธิญาณ
เป็นมณฑปที่สร้างด้วยศิลาแลง เช่นกัน ที่มณฑปแห่งนี้ตั้งของหุ่นขี้ผึ้งของหลวงพ่อมหาพันธ์ สีลวิสุทโธ หรือพระครูภาวนาวิสุทธิญาณ ซึ่งเป็นผู้ร่วมกับพุทธศาสนิกชนร่วมกันสร้างวัดแห่งนี้ขึ้นรวม ทั้งสังขารของหลวงพ่อ ซึ่งไม่เน่าเปื่อยให้พุทธศาสกนิกชน และลูกศิษย์ได้มากราบไหว้
เป็นมณฑปที่สร้างด้วยศิลาแลง เช่นกัน ที่มณฑปแห่งนี้ตั้งของหุ่นขี้ผึ้งของหลวงพ่อมหาพันธ์ สีลวิสุทโธ หรือพระครูภาวนาวิสุทธิญาณ ซึ่งเป็นผู้ร่วมกับพุทธศาสนิกชนร่วมกันสร้างวัดแห่งนี้ขึ้นรวม ทั้งสังขารของหลวงพ่อ ซึ่งไม่เน่าเปื่อยให้พุทธศาสกนิกชน และลูกศิษย์ได้มากราบไหว้
ประวัติวัดเนรมิตวิปัสสนา
วัดเนรมิตวิปัสสนา ตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2521 โดยพระครูภาวนาวิสุทธิญาน หรือหลวงพ่อมหาพันธ์ สีลวิสุมโธ เจ้าอาวาสรูปแรก แต่เดิม วัดมีชื่อว่า "วัดหัวนายูง" ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็น "วัดเนรมิตวิปัสสนา"ในปีพ.ศ. 2521 ขณะหลวงพ่อมหาพันธ์ สิลวิสุทโธ พำนักจำพรรษาอยู่ที่วัดจำปา จังหวัดสุรินทร์ (บ้านเกิด) ท่านได้ปรารภในที่ ประชุมสงฆ์ว่า ท่านจะออกธุดงค์เดินทางไปเรื่อยไม่พำนักเป็นหลักแหล่งถาวรแต่ที่ประชุมมีความเห็นพ้องกันว่า หลวงพ่อมีอายุมากเกรงว่าจะได้รับความลำบาก อยากให้ท่านมีที่พำนักถาวร จะได้เป็นที่อาศัยเป็นเนื้อนา บุญแก่ ญาติโยมทั้งหลายซึ่งหลวงพ่อเองก็เห็นชอบด้วย ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2522 หลวงพ่อเป็นประธานออกเดินธุดงค์ พร้อมด้วยคณะสงฆ์ อุบาสก อุบาสิกา ได้เดินทางไปพำนักอยู่ที่พระธาตุศรีสองรัก อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย ระหว่างนั้นหลวงพ่อได้ตัดสินใจหาสถานที่เป็นหลักแหล่งมั่นคงถาวร โดยเลือกเอาพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติซึ่ง ถูก ชาวบ้านบุกรุกเพื่อทำไร่เผาถ่านจนมีลักษณะเป็นที่โล่งเตียน เหมือนภูเขาหัวโล้น ที่เรียกว่า ภูเปือย ซึ่งทางวัดได้ รับอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยได้เมื่อตั้งวัดขึ้นจึงได้ปลูกป่าอนุรักษ์ให้คง สภาพเดิมมากที่สุด เดือน พฤษภาคม พ.ศ. 2522 หลวงพ่อและคณะได้ปักกลดอยู่ ณ ที่ตั้งวัด พร้อมกับเร่งดำเนินการปลูกสร้างที่พักอาศัย ชั่วคราวขึ้น จากนั้นจึงทำการปรับพื้นที่ ปลูกสร้างถาวรวัตถุและในปีพ.ศ. 2529 ได้ร่วมกันสร้างอุโบสถ ภายในวัด ขึ้นมีขนาดกว้าง 40 เมตร ยาว 80 เมตร
วันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2540 หลวงพ่อท่านได้ มรณภาพภาพลง แต่ร่างของท่านไม่เน่าเปื่อย ปัจจุบันถูกเก็บอยู่ใน มณฑปด้านหลังอุโบสถ หลังจากที่หลวงพ่อมรณภาพลง พระครูภาวนาวิสุทธาภรณ์ เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน ได้รับ เป็นประธานดำเนินการก่อสร้างต่อ พร้อมด้วยบรรดาคณะศิษยานุศิษย์ พระภิกษุสามเณร ข้าราชการ ทหารตำรวจ พ่อค้าและประชาชนชาวอำเภอด่านซ้าย ใช้งบประมาณในการก่อสร้างประมาณ 197 ล้านบาท ใช้เวลาก่อสร้าง 14 ปี จึงแล้วเสร็จต่อมาในปีพ.ศ. 2549 วัดหัวนายูง เปลี่ยนชื่อเป็น วัดเนรมิตวิปัสสนา
วันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2540 หลวงพ่อท่านได้ มรณภาพภาพลง แต่ร่างของท่านไม่เน่าเปื่อย ปัจจุบันถูกเก็บอยู่ใน มณฑปด้านหลังอุโบสถ หลังจากที่หลวงพ่อมรณภาพลง พระครูภาวนาวิสุทธาภรณ์ เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน ได้รับ เป็นประธานดำเนินการก่อสร้างต่อ พร้อมด้วยบรรดาคณะศิษยานุศิษย์ พระภิกษุสามเณร ข้าราชการ ทหารตำรวจ พ่อค้าและประชาชนชาวอำเภอด่านซ้าย ใช้งบประมาณในการก่อสร้างประมาณ 197 ล้านบาท ใช้เวลาก่อสร้าง 14 ปี จึงแล้วเสร็จต่อมาในปีพ.ศ. 2549 วัดหัวนายูง เปลี่ยนชื่อเป็น วัดเนรมิตวิปัสสนา
วัดเนรมิตวิปัสสนา
20 หมู่ 14 บ้านหัวนายูง ตำบลด่านซ้าย อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย 42120
โทร 042-891226, 086-8525950
ฝ่ายติดต่อประสานงาน
พระบุญเพ็ง วรธมฺโม 08-9426-4233
Email: boonpengv@gmail.com
http://www.watneramitvipassana.org
20 หมู่ 14 บ้านหัวนายูง ตำบลด่านซ้าย อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย 42120
โทร 042-891226, 086-8525950
ฝ่ายติดต่อประสานงาน
พระบุญเพ็ง วรธมฺโม 08-9426-4233
Email: boonpengv@gmail.com
http://www.watneramitvipassana.org